หยุดปัญหา?ใช้ความรุนแรงในสถานศึกษา
ปัจจุบันเกิดเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงขึ้นระหว่างครูกับนักเรียน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ความรุนแรงที่เกิดในโรงเรียน ระหว่างครูและนักเรียน ระหว่างนักเรียนกับนักเรียน เพราะสิ่งเหล่านี้ อาจหล่อหลอมให้นักเรียนมีพฤติกรรมความรุนแรง และออกไปก่อความรุนแรงนอกสถานศึกษาได้
จากผลการศึกษาสถานการณ์ความรุนแรงในโรงเรียนทั่วประเทศ โครงการส่งเสริมสนับสนุนและคุ้มครองสุขภาพและสิทธิมนุษยชนด้านเด็กเยาวชนและครอบครัว มูลนิธิสุขภาพแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน ป. 4 จนถึง ม. 3 พบว่า ครูส่วนใหญ่ มักลงโทษผู้เรียนที่ก่อความรุนแรงหรือทำผิดด้วยการตี และการทำร้ายจิตใจ ผลการสำรวจข้อมูลสถานการณ์ความรุนแรงในโรงเรียนสมัชชาเด็กและเยาวชน จ. อุดรธานี พบว่า ครูกว่าร้อยละ 77.3 ลงโทษด้วยการตี ร้อยละ 68.9 ใช้วิธีการตะคอกใส่ ร้อยละ 54.1 พูดสบประมาท ประชดประชัน และมีนักเรียนร้อยละ 8 ถูกครูทำโทษโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเป็นการบ่มเพาะการใช้ความรุนแรงในผู้เรียนได้
สาเหตุที่ครูใช้ความรุนแรง ปัญหาอารมณ์จิตใจ ขาดทักษะการแก้ปัญหา อำนาจนิยมศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก วิเคราะห์สาเหตุที่ครูทำโทษด้วยความรุนแรง มี 2 สาเหตุ สาเหตุแรกครูผิดปกติด้านจิตใจและอารมณ์เมื่อเกิดความเครียดอาจระบายอารมณ์กับเด็กด้วยการตี หรือต่อว่า สาเหตุที่สองครูขาดทักษะการจัดการปัญหาเด็กครูจำนวนมากยังเชื่อว่าการลงโทษด้วยการตีเป็นวิธีที่ได้ผล นอกจากนี้ มีความคิดเห็นจากผู้ที่ทำงานด้านเด็ก มองว่า โรงเรียนส่วนใหญ่มีโครงสร้างแบบอำนาจนิยม ส่งผลให้ครูจำนวนมากมีพฤติกรรมใช้อำนาจกับเด็ก ประกอบกับการเรียนการสอนเป็นการสื่อสารทางเดียว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ครูขาดทักษะการฟัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าใจผู้เรียน
เขียนโดย คุณ ผู้ปกครอง
|
วันที่ 2 มิ.ย. 2565 เวลา 10.38 น. [ IP : 1.47.147.122 ] |
|
 |
|
พัฒนา ทดสอบ ความรู้ด้านจิตวิทยาและทักษะอารมณ์ ครูส่วนใหญ่มักลงโทษเด็กด้วยการตีหรือการดุด่า เพราะรับรู้วิธีนี้มาตั้งแต่เป็นนักเรียน ดังนั้น ศธ. ควรปรับปรุงการพัฒนาครู โดยเพิ่มเติมในเรื่องจิตวิทยาและทักษะอารมณ์ ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาครูก่อนประกอบวิชาชีพครู นักศึกษาควรได้รับการทดสอบความรู้จิตวิทยาและทักษะทางอารมณ์ หากใครไม่ผ่านจะไม่สามารถไปประกอบวิชาชีพครู และเมื่อมาเป็นครูประจำการ ควรมีการทดสอบและประเมินผลสภาพจิตใจและอารมณ์เป็นระยะ นอกจากนี้ ควรมีการสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นกับครู ซึ่งอาจส่งผลต่ออารมณ์ของครู เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้ครูระบายอารมณ์กับนักเรียนเมื่อเกิดความเครียด
ทดสอบและประเมินทักษะทางอารมณ์ของนักเรียน สถานศึกษามีระบบทดสอบและประเมินทักษะทางอารมณ์ของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น และมีการส่งผลผลการทดสอบและประเมินไปยังระดับการศึกษาที่สูงขึ้น หรือเมื่อเปลี่ยนสถานศึกษา เพื่อปรับพฤติกรรมผู้เรียนในระยะยาว
ร่วมมือกับนักจิตวิทยาแก้ปัญหาและป้องกันใช้ความรุนแรงสถานศึกษาร่วมมือกับนักจิตวิทยา เพื่ออบรมครูแนะแนว ครูประจำชั้น และครูฝ่ายปกครอง ให้เข้าใจสภาพของผู้เรียน รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาและการลงโทษที่ถูกต้องเหมาะสม
มีช่องทางสื่อสารระหว่างสถานศึกษากับครอบครัว สถานศึกษามีช่องทางสื่อสารเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กสู่สถานศึกษาและจากสถานศึกษาสู่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนดูแลและแก้ไขพฤติกรรมเด็ก โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเสี่ยงใช้ความรุนแรง รวมถึง ให้พ่อแม่มีความรู้เกี่ยวกับสิทธิเด็ก และวิธีการลงโทษเด็กที่ไม่เกินกว่าเหตุ เพื่อปกป้องเด็กไม่ให้ถูกกระทำความรุนแรงภายในสถานศึกษา
เขียนโดย คุณ ผู้ปกครอง
|
วันที่ 2 มิ.ย. 2565 เวลา 10.39 น. [ IP : 1.47.147.122 ] |
|
 |
|
กองการศึกษา เทศบาลตำบลลานกระบือ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดในบทความนี้ หากท่านพบเจอปัญหา ระหว่างนักเรียนและครูในสถานศึกษา สามารถแจ้งปัญหาปรึกษาโดยตรงได้ที่ผู้อำนวยการกองการศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาลลานกระบือ ทั้งนี้ยังมีช่องทางการติดต่อสื่อสาร
นางสาวเสาวนีย์ อุดด้วง ผู้อำนวยการกองการศึกษา โทร.081-1118416
นางสาวสุกัญญา มะลิวงษ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลลานกระบือ โทร.0814267545
เฟสบุ๊ค:ประชาสัมพันธ์โรงเรียนเทศบาลลานกระบือ
กลุ่มไลน์ : ของผู้ปกครองและครูประจำชั้นแต่ล่ะห้องเรียน
เบอร์โทร : โรงเรียนเทศบาลลานกระบือ 055-020384
เขียนโดย คุณ กองการศึกษา เทศบาลตำบลลานกระบือ
|
วันที่ 16 มิ.ย. 2565 เวลา 14.56 น. [ IP : 182.53.193.162 ] |
|
 |
|